สำหรับสถานที่ที่จำเป็นต้องส่องกล้องย้อนแสง เช่น ร้านทองที่ต้องการส่องกล้องมองลูกค้าย้อนไปทางด้านหน้าร้าน ฟังก์ชัน A.E.S. อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานย้อนแสง เพราะภาพที่เห็นบนจอโทรทัศน์จะเห็นหน้าคนมืดๆ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของภาพมีแสงเข้ามามาก ตัวกล้องจึงปรับลดแสงลงจนหน้าคนมืดไป
ตัวอย่างภาพที่ส่องกล้องย้อนแสงออกไปด้านนอกร้าน ซึ่งกล้องทั่วไปจะเห็นภาพมืด
(เพราะฟังก์ชัน A.E.S. ช่วยปรับแสงอัตโนมัติ)
วิธีการแก้ไขมี 2 ทางคือ พยายามกดมุมกล้องลงต่ำ หรือหันมุมกล้องไปในทิศทางที่หลบแสง หรือไม่สู้แสง แต่ถ้าจำเป็นต้องหันมุมกล้องไปในทิศทางที่ย้อนแสง ให้เลือกกล้องรุ่นที่สามารถย้อนแสงได้
กล้องที่สามารถย้อนแสงได้ จะมีปุ่มผลักด้านหลังกล้อง เพื่อตัดการทำงานของฟังก์ชัน AES ทิ้งไป โดยกลายเป็นการใช้งานฟังก์ชัน Back Light Compensation (BLC) แทน ซึ่งการใช้งานฟังก์ชัน BLC เมื่อท่านส่องกล้องย้อนแสงไปในที่ที่มีแสงมากๆ แทนที่ภาพจะถูกปรับให้มืดลง ภาพจะยังคงสว่างอยู่ (หรือบางรุ่นจะเพิ่มแสงให้กับภาพอีก) ทำให้ภาพหน้าคนตรงกลางภาพ สว่างขึ้นมา (ภาพ Background ด้านหลัง จะสว่างมาก ซึ่งปกติก็จะไม่แคร์ Background ด้านหลังอยู่แล้ว)
ตัวอย่างการทำงานของกล้องที่มีปุ่มผลักด้านหลัง ใช้งานฟังก์ชัน BLC
ภาพเริ่มต้น เมื่อใช้งานฟังก์ชัน A.E.S. ภาพหลัง หลังจาก ตัดการใช้งานฟังก์ชัน A.E.S.
แต่เปิดการใช้งานฟังก์ชัน BLC
9. BACK LIGHT COMPENSATION ( BLC ) และ AUTO GAIN CONTROL ( AGC )
การส่องกล้องย้อนแสง แล้วใช้ฟังก์ชัน B.L.C. ฟังก์ชันนี้จะช่วย boost แสงขึ้นมาที่ด้านหน้าตรงกลางภาพ ทำให้มองเห็นภาพบริเวณด้านหน้าได้ชัดเจน ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะสว่างมาก จนดูไม่รู้เรื่องเลย
การใช้ BLC mode เหมาะกับการใช้ในร้านขายทอง ที่ติดกล้องหันไปทางด้านนอกร้าน และเน้นภาพชัดเจนบริเวณด้านหน้าของภาพ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ภายในร้าน
ฟังก์ชัน AGC จะช่วยในการเฉลี่ยแสงของภาพโดยรวมให้ดีขึ้น คือภาพทั้งภาพ จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นไม่ได้เน้นเฉพาะจุดที่ด้านหน้าภาพเหมือน BLC
A.E.S. BLC AGC
กล้องทั่วไป กล้องที่ย้อนแสงได้ มี BLC กล้องที่มี Auto Gain Control
10. Auto Iris
กล้องใด ระบุ SPEC ว่ามี Auto Iris หมายถึง กล้องนั้น Support ที่จะใช้งานคู่กับเลนส์แบบ Auto Iris ได้
เลนส์ Auto Iris มี 2 แบบ คือ แบบ Video Drive และ DC Drive ซึ่งเลนส์ Auto Iris ทั้ง 2 แบบ จะมีสายสัญญาณ 4 เส้น ที่จะต้องต่อเข้ากับตัวกล้อง ซึ่งเฉพาะกล้องที่มีหัวต่อ Auto Iris เท่านั้น จึงจะใช้งานคู่กับเลนส์ Auto Iris ได้
ตัวอย่างด้านหลังของกล้อง FN-311 ที่สามารถต่อเข้ากับเลนส์ Auto Iris ได้
กล้องบางรุ่น Support เลนส์ Auto Iris ทั้งแบบ Video Drive และ DC Drive ซึ่งกล้องประเภทนั้น จะมีปุ่มสวิทช์ให้ผลักเลือกระหว่าง Video Drive และ DC Drive
11. WATER PROOF
จะระบุใน spec สำหรับกล้องพิเศษที่กันน้ำได้, สามารถนำไปติดตั้งภายนอกอาคาร โดนฝนได้
กล้องบางรุ่น ออกแบบมาสำหรับจุ่มน้ำได้ นั่นคือสามารถติดกล้องใต้น้ำในระยะ 30 เมตรได้ ซึ่งเรียกว่ากล้อง Special ประเภท Submersible Camera
12. MICROPHONE (Mic.)
กล้องที่ระบุ Mic. จะเป็นกล้องที่มี microphone ในตัว และจะมีช่องสัญญาณ AUDIO OUT ด้วย
13. INFRARED
แสงสีขาว เป็นแสงที่คนเราสามารถมองเห็นได้ ประกอบไปด้วย สี 7 สี โดยแสงที่มีความถี่สูงหรือต่ำกว่านี้ จัดเป็นแสงที่คนเรามองไม่เห็น
รูป 1.6 Spectrum ของแสง
เลนส์ปกติจะมีสารเคลือบ กั้นแสง infrared เพื่อไม่ให้แสง infrared ผ่านได้ และภายในตัวกล้องก็จะมี filter ทำหน้าที่กรองแสง infrared นี้ออกไปอีกด้วย เพราะกล้องสีจะให้ภาพสีสวยสด เมื่อไม่มีแสง infrared มารบกวน
ตามธรรมดาแล้ว แสงที่มีอยู่ในธรรมชาติเป็นแสงสีขาว ( ประกอบด้วย 7 สี ) และสามารถมองเห็นได้ โดยแสงจะไปกระทบวัตถุและสะท้อนกลับมายังเลนส์ แล้วตกยังฉากรับภาพ, แต่ในสถานที่ที่มีปริมาณแสงน้อย ( ที่มืด ) กล้อง infrared จะทำหน้าที่ปล่อยแสง infrared ไปกระทบวัตถุ และสะท้อนกลับมายังเลนส์ ดังนั้น เลนส์ที่ใช้ จึงต้องเป็นเลนส์ชนิดที่ยอมให้แสง infrared ผ่านได้ ( UNCOATED ) และตัวกล้องเอง จะต้องไม่มี filter ด้วย (กล้องชนิดนั้นจะเรียกว่า IR Camera )
กล้อง FN-663L เป็นตัวอย่างของกล้องสี ที่ยอมให้แสง Infrared ทำงานได้ นั่นคือ ยอมรับแสง Infrared ได้
เสริมเพิ่มเติม
ชนิดของเลนส์
UNCOATED - ไม่กั้นแสง infrared
COATED - กั้นแสง infrared ได้บ้าง
MULTI-COATED - กั้นแสง infrared ได้ดี
* ภาพที่ได้จากกล้อง infrared จะเป็น ภาพขาว-ดำ เท่านั้น *
ภาพเมื่อเปิดไฟห้อง ภาพเมื่อปิดไฟห้อง
มีแสงสว่างเพียงพอ อินฟราเรดทำงาน ได้ภาพ ขาว-ดำ
ภาพจริงอาจจะสว่างเฉพาะช่วงกลางๆภาพ
ส่วนขอบๆภาพอาจจะมืดกว่านี้
ติดตามต่อในบทความสุดท้ายตอนจบ ตอนที่ 5 ครับ